1) การจัดเตรียมสถานที่ สื่อ
อุปกรณ์ในการจัดการเรียนการสอนให้มีสภาพที่พร้อมใช้และเพียงพอสำหรับนักเรียนทุกคนในห้อง
2) การใช้เวลาอย่างมีประสิทธิภาพ
การจัดการเรียนการสอนที่ดีขึ้นอยู่กับการใช้เวลาในการดำเนินกิจกรรมอย่างมีประสิทธิภาพ
ครูไม่ควรปล่อยให้มีเวลาว่างหรือเวลาที่เสียไปโดยเปล่าประโยชน์ อันเนื่องจากความไม่พร้อมในด้านวัสดุอุปกรณ์และการดำเนินกิจกรรมที่ไม่ได้เตรียมการล่วงหน้า
เพราะความไม่พร้อมจะทำให้เกิดความวุ่นวาย
เสียเวลาในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้ามากและทำให้การดำเนินงาน ไม่บรรลุวัตถุประสงค์
ครูต้องบริหารการใช้เวลาเพื่อให้นักเรียนได้ใช้เวลาเพื่อการเรียนรู้อย่างเต็มที่
2. การจัดการเรียนการสอนอย่างเป็นระบบ คือ การดำเนินการเรียนการสอนให้เป็นไป
ตามลำดับขั้นตอนของรูปแบบการเรียนการสอนที่ใช้อย่างมีประสิทธิภาพ
โดยดำเนินการดังนี้
1) เริ่มต้นบทเรียนอย่างมีประสิทธิภาพ
โดยกระตุ้นให้ผู้เรียนมีความสนใจซึ่งทำได้หลายวิธี
วิธีที่กระตุ้นกระบวนการคิดและสติปัญญา ก็คือการสร้างความสงสัยประหลาดใจให้กับผู้เรียน
ทำให้ผู้เรียนมีความกระตือรือร้น อยากค้นพบคำตอบ เช่น การนำเสนอข้อมูลหรือความคิดที่ขัดแย้ง
ไม่สอดคล้อง กับความรู้ ความเข้าใจเดิมของผู้เรียนทำให้ผู้เรียนเกิดข้อสงสัย กังขา
การใช้คำถามที่ส่งเสริมกระบวนการคิด เป็นต้น
2) ดำเนินการเรียนการสอนอย่างมีประสิทธิภาพ
เป็นขั้นที่ครูจัดการเรียนการสอนโดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ซึ่งทิศนา แขมมณี (2555, หน้า 120) ได้ให้ความหมายว่า
เป็นการจัดการเรียน การสอนที่ยึดผู้เรียนเป็นตัวตั้ง
โดยคำนึงถึงความเหมาะสมกับผู้เรียนและประโยชน์สูงสุดที่ผู้เรียนควรจะได้รับและมีการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เปิดโอกาสให้ผู้เรียนมีบทบาทสำคัญในการเรียนรู้
ได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียนรู้อย่างตื่นตัวและได้ใช้กระบวนการเรียนรู้ต่าง ๆ
อันจะนำผู้เรียนไปสู่การเกิดการเรียนรู้ที่ แท้จริง ดังนั้นกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญจึงมีลักษณะที่สรุปได้ดังนี้
(1) กิจกรรมที่ผู้เรียนมีส่วนร่วมอย่างตื่นตัวผู้เรียนเป็นผู้มีบทบาทอย่างเต็มที่และรับผิดชอบการเรียนรู้ของตนเอง
(2) กิจกรรมที่ท้าทายให้ผู้เรียนกระตือรือร้นในการค้นหาคำตอบ
โดยครูนำเสนอปัญหาและสถานการณ์ให้คิด ครูมีบทบาทช่วยชี้ช่องแนะแนวให้นักเรียนเห็นลู่ทางในการแก้ปัญหา
(3) กิจกรรมที่ให้ผู้เรียนเป็นผู้ลงมือปฏิบัติเพื่อค้นหาคำตอบ
(4) กิจกรรมที่ให้ผู้เรียนได้มีปฏิสัมพันธ์ทางสังคม
มีการร่วมมือและการแลกเปลี่ยนความรู้ ความคิดเห็น ตลอดจนประสบการณ์ระหว่างผู้เรียนเพื่อปรับเติมเสริมแต่งและต่อยอดความรู้
(5) กิจกรรมที่สร้างความสะเทือนใจซาบซึ้งประทับใจทำให้ตื่นตัวในการเรียนรู้
(6) กิจกรรมที่ผู้เรียนได้เรียนรู้จากผู้ทรงภูมิปัญญาในท้องถิ่น
(7) กิจกรรมที่ผู้เรียนได้นำความรู้ไปทดลองใช้แก้ปัญหาหรือสร้างสรรค์ชิ้นงาน
(8) กิจกรรมที่ผู้เรียนใช้กระบวนการจัดกระทำกับข้อมูลที่ได้รับรู้เพื่อให้เข้าใจและจดจำได้ง่ายและสามารถระลึกได้เมื่อต้องการนำมาใช้
(9) กิจกรรมที่ผู้เรียนได้เรียนรู้ในบริบทจริง ทำให้เกิดการเรียนรู้ที่แท้จริงบทบาทที่สำคัญของครูในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
ได้แก่ การเป็นผู้เตรียมการลำนวยความสะดวกให้เกิดการเรียนรู้ การทำหน้าที่เป็นผู้ให้คำแนะนำ
ปรึกษา เป็นผู้ช่วยเหลือ เป็นผู้ให้ข้อมูลย้อนกลับบทบาทของครูที่ส่งเสริมการเรียนรู้ก็คือบทบาทที่ทำหน้าที่เหมือนโค้ชนักกีฬานั่นเอง
3)
สรุปบทเรียนอย่างมีประสิทธิภาพ การสรุปบทเรียนเป็นขั้นตอนที่สำคัญเพราะเป็นขั้นตอนในการเชื่อมโยงและประมวลความรู้ระหว่างความรู้และประสบการณ์ใหม่ที่ได้รับกับความรู้และประสบการณ์เดิมให้เป็นความคิดรวบยอดใหม่ที่มีความครอบคลุมถูกต้องและชัดเจนมากยิ่งขึ้น
ทำให้ผู้เรียนสามารถบันทึกและจดจำได้ทนนาน เพราะเป็นการจดจำอย่างมีความหมายการสรุปบทเรียนจึงมีความสำคัญและควรทำร่วมกันระหว่างครูและนักเรียน
โดยให้ผู้เรียนเป็นผู้สรุปด้วยความเข้าใจใหม่ของตนเองครูทำหน้าที่ให้แนวทางการสรุปข้อมูล
เช่นการแนะนำการใช้แผนภาพความคิด (graphic organizer) แบบต่าง
ๆ ที่มีความเหมาะสมกับการสรุปและนำเสนอข้อมูล สารสนเทศที่ต้องการและให้ข้อมูลย้อนกลับกับผลงานของนักเรียนเพื่อเป็นสารสนเทศสำหรับการปรับปรุงแก้ไขงานและการสร้างความคิดรวบยอดใหม่
ให้มีความถูกต้องชัดเจนมากยิ่งขึ้น
4) ประเมินผลอย่างมีประสิทธิภาพ
การประเมินผลที่มีประโยชน์ต่อการพัฒนาการเรียนรู้ของผู้เรียนคือการประเมินความก้าวหน้า
ซึ่งเป็นกระบวนการที่สามารถทำพร้อมไปกับกระบวนการเรียนการสอน
การประเมินครอบคลุมทั้งการประเมินผลการเรียนรู้และกระบวนการเรียนรู้ของผู้เรียน
วิธีการประเมินใช้เครื่องมือหลากหลายประเภทให้เหมาะสม สอดคล้องกับสิ่งที่ประเมินผู้ทำหน้าที่ประเมินไม่จำกัดอยู่ที่ครูเพียงฝ่ายเดียว
แต่ต้องเป็นผลการประเมินที่ทุกฝ่าย ได้แก่ ครู นักเรียนและ
แม้แต่ผู้ปกครองหรือสังคม มีส่วนร่วมในการสะท้อนมุมมองความคิดเห็นต่าง ๆ
อย่างรอบด้านเท่าที่จะเป็นไปได้เพื่อนำมาใช้ในการประเมินการเรียนรู้
จุดมุ่งหมายสำคัญของการประเมินคือการประเมินเพื่อพัฒนาผู้เรียนไปสู่การเรียนรู้ที่มีคุณภาพมากขึ้นนั่นเอง
คุณลักษณะของครู
คอชัคและเอกเกน (Kauchak
& Eggen, 2007, p. 127)
กล่าวว่า ครูที่ดีควรมีลักษณะส าคัญ 3 ประการ คือ มีทัศนคติที่ดีในการสอน
มีทักษะในสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ และมีทักษะการจัดกิจกรรม การเรียนการสอน
ลักษณะดังกล่าวส่งผลต่อประสิทธิภาพของการเรียนการสอน ตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นแนะน า
บทเรียน ช่วงตอนกลางของบทเรียน และช่วงปิดท้ายบทเรียน
ดังนั้นคุณลักษณะของครูจึงมีอิทธิพลต่อ การเรียนรู้ของนักเรียนในห้องเรียน
1. ทัศนคติของครู
เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการเป็นครูที่ดีเพราะทัศคติของครูมีอิทธิพลต่อ
การสอนและการถ่ายทอดความรู้ให้กับเด็ก ทัศนคติของครูประกอบด้วย
ประสิทธิภาพทางการสอนของ ครู การเป็นแบบอย่างและความกระตือรือร้นของครู
และความคาดหวังของครู ทั้งสามสิ่งนี้ส่งผลต่อ ทัศนคติในการสอนของครู
(Brunning et al., 2004)
1) ประสิทธิภาพทางการสอนของครู
ครูที่มีประสิทธิภาพทางการสอนสูงจะส่งผลดีต่อการเรียนรู้ของผู้เรียน
ทำให้ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ได้เร็วและมีคุณภาพ ครูที่มีประสิทธิภาพทางการสอนสูงมักให้คำชมเด็กและให้กำลังใจมากกว่าการติหรือต่อว่าเมื่อเด็กทำผิดอีกทั้งยังมีความยืดหยุ่นในการใช้
กลยุทธ์และอุปกรณ์การเรียนการสอนใหม่
ๆ อีกด้วย ตรงกันข้ามกับครูที่มีประสิทธิภาพทางการสอนต่ำครูเหล่านั้นมักตินักเรียนเมื่อทำผิดและยึดติดกับรูปแบบการสอนเดิมๆ
โดยไม่ปรับเปลี่ยนให้เข้ากับเด็กหรือบรรยากาศการสอนใหม่ ๆ (Poole,
Okeafor, & Sloan, 1989)
2)
การเป็นแบบอย่างและความกระตือรือร้นของครู ครูมีอิทธิพลอย่างมากต่อความคิดและแนวทางการเรียนของเด็ก
เด็กมักไม่เลียนแบบหรือปฏิบัติตามคำพูดของครูแต่เด็กจะเลียนแบบพฤติกรรมและการแสดงออกของครู
เด็กจะรู้ว่าทัศนคติของครูเป็นอย่างไรโดยดูจากการแสดงออกทางการกระทำเช่น
หากครูบอกให้นักเรียนแสดงความเห็นอย่างอิสระต่อประเด็นหนึ่ง ๆ แต่ครูกลับไม่ยอมรับความคิดเห็นนั้น
เด็กจะเริ่มสังเกตว่าครูชอบความคิดแบบใดและพยายามแสดงความเห็นที่ตรงกับความต้องการของครู
ความกระตือรือร้นของครูเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการเป็นแบบอย่างที่ดีของเด็ก
เพราะเด็กจะรู้สึกสนุกและอยากเรียนกับครูที่มีความกระตือรือร้นในการสอน
ครูที่มีความกระตือรือร้นไม่จำเป็นต้องเล่าเรื่องตลกที่นอกเหนือจากบทเรียนแต่ครูจำเป็นต้องสื่อสารให้เด็กเข้าใจได้ว่าบทเรียนมีความน่าสนใจและจะเป็นประโยชน์ต่อผู้เรียนอย่างไร
การใช้ภาษากายในการสื่อสารและใช้ภาษาพูดที่เข้าใจง่ายจะช่วยให้เด็กเกิดความสนใจในบทเรียนนั้นๆ
มากยิ่งขึ้น
3)
ความคาดหวังของครู ความคาดหวังของครูคือสิ่งที่เกี่ยวกับความสำเร็จทางวิชาการ
พฤติกรรมและทัศนคติของนักเรียนในอนาคตครูที่ดีมักจะมีความคาดหวังเชิงบวกต่อการเรียนของนักเรียนและอธิบายให้นักเรียนเข้าใจถึงความสำคัญของบทเรียนต่างๆ
ครูควรช่วยเด็กทุกคนอย่างเท่าเทียมกันให้ประสบความสำเร็จในการเรียนและบรรลุเป้าหมายทางวิชาการที่ตนตั้งไว้
ความคาดหวังเชิงบวกของครูต่อนักเรียนส่งผลให้นักเรียนตั้งใจเรียนและทุ่มเทกับการเรียนมากขึ้น
2.
ทักษะในการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ การใช้ภาษาของครูมีผลต่อความสำเร็จในการเรียนของนักเรียนและความพึงพอใจในการเรียน
การสื่อสารที่ชัดเจนมีองค์ประกอบ 5 อย่าง ได้แก่
1)
การใช้คำศัพท์ที่สื่อความหมายได้ใช้เจน โดยครูควรหลีกเลี่ยงการใช้คำที่คลุมเครือเวลาสื่อสารกับเด็กเนื่องจากคำเหล่านั้นทำให้ประสิทธิภาพทางการเรียนของเด็กลดลงและยังแสดงให้เห็นว่าครูเตรียมตัวมาไม่ดี
2) การใช้คำเชื่อมประโยคที่เหมาะสม
การสื่อสารที่ดีต้องมีคำเชื่อมที่นำไปสู่ใจความสำคัญของประโยค คำเชื่อมที่ถูกต้องจะทำให้ลำดับเหตุการณ์ของประโยคเชื่อมโยงกันอย่างสมเหตุสมผล
3) การเชื่อมโยงความคิดในบทเรียน
ครูต้องทำให้นักเรียนเข้าใจถึงความสัมพันธ์ระหว่างความคิดที่หนึ่งและความคิดที่สองโดยการอธิบายความเชื่อมต่อนั้น
4) การเน้นย้ำ
ครูควรเน้นย้ำหัวข้อหรือเนื้อหาที่มีความสำคัญหรือโดดเด่นกว่าเนื้อหาอื่นๆ
เพื่อช่วยให้นักเรียนได้เห็นถึงระดับความสำคัญที่ต่างกันของเนื้อหาในบทเรียน
5) ความสอดคล้องของภาษาพูดและภาษากาย
การใช้ภาษากายประกอบการพูดควรเป็นไปในแนวทางเดียวกับสิ่งที่ครูพูด
ภาษากายมีความสำคัญเนื่องจากเด็กสามารถประเมินทัศนคติและความจริงใจของครูได้ผ่านทางการแสดงออกของครู
ดังนั้นเมื่อครูต้องการจูงใจนักเรียนหรือบอกให้นักเรียนทำอะไรครูต้องใช้ภาษาพูดและภาษากายที่สอดคล้องกัน
3. ทักษะการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน
การจัดการเรียนการสอนที่ดีนั้นต้องเริ่มจากการตรงต่อเวลา
ครูจำเป็นต้องแบ่งเวลาการทำกิจกรรมอย่างเหมาะสมเพื่อไม่ให้กระทบต่อกิจกรรมอื่นๆ
การเตรียมอุปกรณ์การสอนล่วงหน้าก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ต้องคำนึงถึง นอกจากนี้ครูยังต้องสร้างกิจวัตรที่ดีให้กับนักเรียน
เช่น เมื่อเด็กเข้ามาในห้องเรียน เด็กต้องรู้ว่าสิ่งแรกที่ควรทำคืออะไรและเมื่อเลิกเรียน
ต้องทำอะไรการจัดการห้องเรียนที่มีระบบจะช่วยลดปัญหาต่างๆ ในห้องเรียน
เช่นการสอนไม่ทันและความไม่เป็นระเบียบในห้องเรียน โดยสรุป
การเป็นครูที่ดีควรเริ่มจากการมีทัศนคติที่ดีต่อการเรียนการสอนเพราะทัศนคติจะส่งผลต่อการแสดงพฤติกรรมต่าง
ๆ ของครู และปฏิสัมพันธ์ของครูต่อนักเรียน ซึ่งส่งผลต่อการเรียนรู้ของนักเรียนเพราะนักเรียนสามารถรับรู้ได้โดยอัตโนมัติว่าครูคิดอย่างไรและต้องการอะไร
เพื่อที่จะตอบสนองไปตามความต้องการของครู
นอกจากนั้นนักเรียนยังยึดถือครูเป็นแบบอย่าง โดยการเลียนแบบการกรทำและคำพูดของครู
การมีทัศนคติที่ดีจึงเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญของคุณลักษณะอื่น ๆ
การจัดกิจกรรมได้อย่างเหมาะสมตามเป้าหมายการเรียนรู้และจัดให้มีการเรียนรู้แบบร่วมมือ
การสร้างบรรยากาศที่ส่งเสริมการเรียนรู้ ประกอบด้วยองค์ประกอบต่อไปนี้ คือ
การจูงใจ ผู้เรียน สิ่งแวดล้อมในการเรียน การสอนที่มีประสิทธิภาพและคุณลักษณะของครู
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น